ไม่ได้มีใครถาม ไม่ได้มีใครชวนหรอก แต่โน้ตไว้ในไดอะรี่ แปะวันเวลาไว้กับปฏิทิน ตกลงกับตัวเองว่า...ตั้งใจจะไปไหนสักแห่ง...ในมุมเงียบ ไม่วุ่นวายสักสามสี่วัน จะว่าไปแล้ว เป็นผู้หญิงก็ยุ่งยากมากหน่อยกับการเดินทางแบกเป้ เดินเดี่ยว ขาดบอดี้การ์ดประชิดตัว แต่ เรื่องใจ..ไม่ต้องห่วง !!!ใจใครก็ใจใคร...
คนเราออกเดินทางด้วยเหตุผลต่างๆ กัน ...ผจญภัย ...พบเจอ...สังสรรค์... ผ่อนพัก..หยุดนิ่ง..และทบทวน บางทีนั่นก็เป็นความสุขแล้วสำหรับคนบางคนกับปลายฝนต้นหนาวท้ายปีในเดือนหมอกห่มคลุม ออกจากสังคมเมืองวุ่น เอ็มพี 3 เพื่อนคู่หู ทำงานตั้งแต่ รถประจำทางออกเคลื่อน หลับๆ ตื่นในห้วงฟ้ามืด กว่า 8 ชม. ก็ถึง...เชียงคาน อำเภอเล็กๆ ติดชายแดนไทย-ลาว เลียบลำน้ำโขง อีกหนึ่งอำเภอของจังหวัดเลย
ความช้า ง่ายๆ ไร้พิธีรีตอง ผู้คนไม่ขวักไขว่ ร้านรวงบ้านช่องยังคงดิบเดิม บ้างเป็นไม้ทั้งหลัง ประตูบานเฟี้ยม เก้าอี้แคร่ตัวย่อมวางอยู่หน้าบ้านเหมือนๆ กัน เรื่อยเดินไปถึงริมฝั่งโขง

สิ่งที่อยู่ปรากฏตรงหน้า ทำเอาสะกดใจซะอยู่หมัด ให้ตาย!! นั่นมันหมอกใช่มั้ยนะ ? หันรีหันขวางสำรวจรอบๆ ให้แน่ใจว่า ไม่ได้มีใครพร้อมใจก่อควันไฟกันต้มยำทำแกงเป็นประชาคมในตอนนี้ ยามนี้อากาศที่ห่อหุ้มเราอยู่น่าจะราวๆ สัก 10 องศาเห็นจะได้ ที่หนาๆ คละคลุ้งคลุมผืนน้ำ แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย นั่นคือ หมอก หมอก และก็หมอก ไม่นานนัก...แดดยามสายเริ่มตื่น มองเห็นสายน้ำไหลเอื่อย หลายชีวิตทอดตัวอยู่บนผืนน้ำสีทอง...เรื่อยมอง หมู่บ้านเล็กๆ ริมโขงที่ผสมผสานและหน่วงเหนียวอะไรไว้มากมาย ความไม่รีบเร่ง ความเงียบของที่นี่ ทำให้บางคนแถวนี้ใจไหวๆ คิดถึงบ้านเก่าและคิดถึงใครบางคน...

ราวๆ 8 โมงเช้า ผู้คนเริ่มออกมาทำสัมมาอาชีพ ปั่นจักรยานไปตลาด บางบ้านมีหญิงชราจับกลุ่มนั่งสนทนา รอใส่บาตรข้าวเหนียว วัฒนธรรมที่ปฏิบัติต่อๆ กันมาเป็นอาจิณ เดินไปบ้านไหน..ก็มีแต่คนส่งยิ้มให้..ทักทายพูดคุย ราวกับรู้จักมานาน มากไปกว่านั้น...เชียงคานมี “ภูท่อก” จุดชมวิวขึ้นชื่อ เหมาะกับการขึ้นไปอาบลมห่มหมอก เป็นมนต์เสน่ห์อีกจุดราวกับได้ไต่ฟ้า ยืนใกล้เมฆ“สวย”...บอกได้แค่นี้คำเดียว...แค่นี้จริงๆ
ไม่ไกลจากนั้นมี “แก่งคุดคู้” ทะเลสันดอนทรายที่ในยามน้ำแห้ง สามารถลงไปเดิน ตั้งเก้าอี้ นอน นั่ง ได้สบายชีวี ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนของคนมาเยือนเชียงคาน แถมมีร้านค้า ร้านอาหารพื้นเมืองให้ได้เลือกชิมเลือกชม เด็ดสุด น่าจะเป็น “มะพร้าวแก้ว” สุดอร่อย ขึ้นชื่อติดดาว
ยามเย็นหลังแดดเริ่มลดทอนความกร้าว...ถนนตัวหนอน เลียบน้ำโขงกลายเป็นถนนมิตรภาพ มีทั้งเด็กเล็กวิ่ง เดินเล่น กลุ่มแม่บ้านตั้งวงคุยริมรั้วลำน้ำโขง บ้างบ้างเดิน-วิ่ง หาความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย บ้างตั้งวงกินข้าวยามเย็นรับตะวันคล้อยตกดิน

ฉากหลัง...ที่เห็นเป็นสายน้ำโขงสีชมพู อมม่วง...มองด้วยตาเปล่า แทบไม่เชื่อว่านี่คือภาพจริง...เชียงคานน่าจะเป็นอีกเมืองผ่านที่ไม่ควรเลย สำหรับคนกล้าเหงา เพราะที่นี่มีรอยจาง-จาง ของความเก่าหล่อเลี้ยงหลายต่อหลายลมหายใจ เชียงคานมีคนใจดี ทุกซอกทุกมุม ยิ้มส่ง ยิ้มรับ ถึงกันไม่มีเขิน....ที่นี่ปะปนระหว่าง คนเดินช้า กับคนเดินเร็ว คนใจดีต่อหน้าและคนใจดีลับหลัง ทุกอย่างดำเนินไม่ว้าวุ่นเหมือนเมืองกรุง มีแต่กลิ่นฟุ้งๆ ของความเป็นมิตรที่ไม่อยากให้ใคร มาเทสี....ความเปลี่ยนแปลง
*ท้ายที่สุดขอให้เชียงคาน อยู่ในเสน่ห์ที่ไม่ต้องแต่งเติม ไร้ข้อแม้...อย่างนี้ ไปนาน นาน...
การเดินทาง
รถส่วนตัว : จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจังหวัดเลยที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ถึงตัวจังหวัดเลยใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 1 ชั่วโมง หรือใช้เส้นทางจากสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพผ่านจังหวัดนครราชสีมาถึงจังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ แล้วใช้เส้นทางหมายเลข 201 เข้าเขตจังหวัดเลย ที่อำเภอภูกระดึง อำเภอวังสะพุง ถึงตัวจังหวัดเลยได้เช่นเดียวกัน
รถประจำทาง : บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-เลย ทุกวัน ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง รายละเอียดสอบถามที่สถานีขนส่งสายอีสาน ถนนกำแพงเพชร 2 (หมอชิต 2) โทร.0-2936-0667, 0-2936-0657 วิ่งเส้น กทม.-เพชรบูรณ์-อ.หล่มสัก-อ.หล่มเก่า-อ.ภูเรือ

*ท้ายที่สุดขอให้เชียงคาน อยู่ในเสน่ห์ที่ไม่ต้องแต่งเติม ไร้ข้อแม้...อย่างนี้ ไปนาน นาน...
การเดินทาง
รถส่วนตัว : จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจังหวัดเลยที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ถึงตัวจังหวัดเลยใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 1 ชั่วโมง หรือใช้เส้นทางจากสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพผ่านจังหวัดนครราชสีมาถึงจังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ แล้วใช้เส้นทางหมายเลข 201 เข้าเขตจังหวัดเลย ที่อำเภอภูกระดึง อำเภอวังสะพุง ถึงตัวจังหวัดเลยได้เช่นเดียวกัน
รถประจำทาง : บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-เลย ทุกวัน ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง รายละเอียดสอบถามที่สถานีขนส่งสายอีสาน ถนนกำแพงเพชร 2 (หมอชิต 2) โทร.0-2936-0667, 0-2936-0657 วิ่งเส้น กทม.-เพชรบูรณ์-อ.หล่มสัก-อ.หล่มเก่า-อ.ภูเรือ
Story Widchuda Channarong / Photo สกู๊ตเตอร์สีชมพู
http://axcscooter.multiply.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : นิตยสาร weekend
ที่มา : www.sanook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น